เคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่านอกจากการจัดประสบการณ์ร้านที่หรูหราน่าดึงดูดแล้วนั้น ยังมีประสบการณ์อะไรอีกบ้างที่แบรนด์หรูใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง…
เปลี่ยนจากการซื้อสินค้าเป็นซื้อประสบการณ์
Louis Vuitton ใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่ชื่อ “Travel Guide Series” ที่พยายามวางตำแหน่งแบรนด์ให้เป็นผู้จัดหาประสบการณ์การเดินทางที่หรูหรา โดยใช้คู่มือท่องเที่ยวเป็นชุดหนังสือที่ให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและน่าเดินทางไปมากที่สุดในโลก
Travel Guide Series เป็นกลยุทธ์ที่ให้เห็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่นำเสนอมากกว่าแฟชั่นและเครื่องประดับหรูหรา ด้วยการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเดินทาง
กลับไปที่จุดเริ่มต้น
สาเหตุที่ Louis Vuitton แสดงความเชี่ยวชาญด้านการเดินทางที่หรูหราและมอบประสบการณ์แบรนด์แบบองค์รวมแก่ลูกค้า นั่นเป็นเพราะจุดเริ่มต้นของแบรนด์เริ่มจากการคัดสรรสินค้าสำหรับการเดินทาง
เรื่องราวของแบรนด์นั้นจึงเกี่ยวกับมรดกของงานฝีมือ ที่สร้างผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม คงทนและปราณีต
เนื้อหาของแบรนด์มักนำเสนอภาพที่สวยงามน่าทึ่ง เช่น ทิวทัศน์ที่สวยงามและสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกสง่างามและความประณีต
กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มั่งคั่งที่ต้องการความแตกต่าง
“Travel Guide Series” เน้นกลุ่มเป้าหมายชัดเจนคือไปยังบุคคลที่ร่ำรวยและมีฐานะดีที่กำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราและไม่เหมือนใคร Inside สำคัญของหนังสือพบว่า กลุ่มเป้าหมายมักจะสนใจในการสำรวจวัฒนธรรมที่แตกต่าง ลองอาหารใหม่ๆ และสัมผัสกับจุดหมายปลายทางและกิจกรรมสุดพิเศษ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ดีที่สุดในแต่ละจุดหมายปลายทาง ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นด้วย
ใช้ Travel Guide Series ขยายกลุ่มเป้าหมาย
“Travel Guide Series” ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดฐานลูกค้าที่มีอยู่ของ Louis Vuitton และกลุ่มผู้มีรายได้สูงอื่นๆที่ชื่นชอบความหรูหราและความพิเศษเฉพาะตัว ด้วยการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเดินทาง หลุยส์ วิตตองสามารถนำเสนอประสบการณ์ของแบรนด์แบบองค์รวมมากขึ้น และมีส่วนร่วมกับลูกค้าในระดับที่ลึกขึ้น
ผลพลอยได้คือการขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
เมื่อลูกค้าได้รับหรือได้ซื้อ Travel Guide Series ก็จะได้เห็นภาพการใช้งานของสินค้า Louis Vuitton จากนั้น Louis Vuitton เองก็จะมีการให้บริการหลังการขายต่างๆ เช่น การบริการจัดกระเป๋า การให้บริการซ่อมแซมสินค้า การจัดส่งสินค้าที่สะดวกสบายและการให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสินค้าให้เหมาะสม รวมถึงการจัดหาสินค้าพิเศษที่เหมาะกับหารเดินทางในแต่ละจุดหมายปลายทาง เช่น การสั่งทำกระเป๋าสัมผัสแบบที่ลูกค้าต้องการ หรือการจัดหาสินค้าหากมีการสั่งซื้อจำนวนมาก
หวังว่าจะไปประโยชน์และสามารถนำข้อมูลด้านการออกแบบประสบการณ์ลูกค้านี้ไปปรับใช้สร้างความโดดเด่น แตกต่างให้แบรนด์ของทุกท่านนะคะ
แป้ง กนกวรรณ