“รู้มั้ยมีงบน้อยก็เริ่มธุรกิจได้”
แนวคิดที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามความกังวลในการเริ่มธุรกิจไอเดียการเริ่มธุรกิจที่ไม่ว่าใครก็ทำได้
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเข้า social media ช่องทางไหนก็เจอแต่เพื่อนที่หันมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง บางคนทำเบเกอรี่ บางคนขายสินค้าออนไลน์ หรือไม่ก็ออกจากงานประจำมาเปิดร้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่ว่าใครหากต้องเริ่มธุรกิจใหม่ก็คงจะรู้สึกกังวลไม่ใช่น้อย ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไร จะเลือกทำเลตรงไหน ต้องใช้เงินลงทุนเยอะมั้ย จะต้องโฆษณายังไง ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดียิ่งต้องคิดหน้าคิดหลัง ก่อนจะเอาเงินไปลงทุนกับอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบที่สุด เพราะการทำธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ทำให้บางคนอาจล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาอาชีพใหม่ให้กับตัวเอง
แต่รู้หรือไม่ว่ามีคุณลุงคนหนึ่งที่เริ่มธุรกิจที่เป็นของตัวเอง ทำทุกอย่างคนเดียว และน่าสนใจตรงที่ธุรกิจของเค้านั้นไม่ต้องแข่งกับคนอื่นที่ราคา งบโฆษณาก็ไม่มี ซึ่งวันนี้เค้าจะมาเป็นตัวอย่างของคนที่สามารถทำให้ปัญหาที่พวกเรากังวลหมดไป นั่นก็คือลุงชัย เจ้าของร้านชัยบาร์เบอร์ กับการตัดผมที่ครองใจผู้ชายไทยหลาย ๆ คน
ใครที่อยู่ในระแวกฝั่งธนฯ หากได้เข้าไปที่ ซ.เพชรเกษม 42 ก็จะได้เจอกับ ร้านชัยบาร์เบอร์ เรียกได้ว่าเป็นสตาร์ทอัพที่ทั้งร้านมีพนักงานคนเดียว ทั้งทำหน้าที่เปิดร้าน จดคิว ตัดผม สระผม กวาดพื้น ยันปิดร้าน แต่ถึงอย่างนั้นลุงชัยก็ยังมีวิธีที่ทำให้ลูกค้าติดใจไปตาม ๆ กัน ลองมาดูกันว่าลุงชัยมีแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไร
เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองมี
ก่อนที่ลุงชัยจะมีร้านตัดผมเป็นของตัวเอง ลุงชัยเคยเป็นช่างตัดผมอยู่ในร้านของคนอื่นมาก่อน ทำให้มีประสบการณ์การตัดผมเป็นเวลาหลายสิบปี พอมาถึงช่วงอายุนึงก็อยากออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเริ่มจากสิ่งที่ลุงชัยทำได้ดีอยู่แล้วก็คือการตัดผม นอกจากนั้นลุงชัยยังเห็นถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้าที่มาตัดผมอีกด้วย ทำให้ลุงชัยรู้ว่าเป้าหมายหลัก ๆ ของธุรกิจคืออะไร
ทำธุรกิจอย่างมีเป้าหมาย และมีคุณค่า
ลุงชัยไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็นช่างตัดผม แต่เป็นคนที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับผู้ชาย เพราะทรงผมที่เหมาะสมจะช่วยปรับบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น จะมีช่างตัดผมซักกี่คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคุณผู้ชาย จะมีซักกี่คนที่มานั่งคิดว่าคุณค่าในอาชีพของตัวเองคืออะไร ลุงชัยมีเป้าหมายและรู้ว่าคุณค่าของอาชีพตัวเองคืออะไร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มีไอเดียในการต่อยอดธุรกิจ
ทำความเข้าใจลูกค้า
ลุงชัยเริ่มธุรกิจจากลูกค้าเก่า รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า โดยลุงชัยรู้ว่าลูกค้าผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากเปลี่ยนช่างทำผมใหม่เพราะช่างคนเดิมเป็นช่างคู่ใจ พอต้องเปลี่ยนช่างใหม่ก็รู้สึกไม่มั่นใจทุกที และยังไม่ชอบรอคิวนานอีกด้วย ลุงชัยรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ทำให้มีแนวทางว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ลูกค้าพอใจ ลองมาดูวิธีการแก้ปัญหาของลุงชัยกัน
Private Shop
ด้วยความที่ลุงชัยเป็นช่างตัดผมคนเดียวในร้าน จึงทำร้านตัวเองให้เป็น Private Shop ที่ในร้านมีแค่ลูกค้า 1 คนกับลุงชัยเท่านั้น ถึงแม้ร้านของลุงชัยจะตั้งอยู่ในตึกแถวธรรมดา แต่การทำ Private Shop ก็สร้างความรู้สึก Exclusive ให้กับลูกค้าได้
จองก่อนล่วงหน้าเท่านั้น
ลูกค้าจะ Walk-in เข้าร้านแบบร้านทั่ว ๆ ไปไม่ได้ ต้องจองก่อนล่วงหน้าผ่านทางโทรศัพท์หรือทางไลน์เท่านั้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาให้กับลูกค้าที่ไม่ชอบรอคิวนาน เพราะมีช่างตัดผมแค่คนเดียว
รักษามาตรฐาน
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ลุงชัยจะใช้เวลาในการตัดผม 1 ชั่วโมงเท่ากัน ห้ามเร่ง หากมาช้าเกิน 15 นาที ลุงชัยก็จะไม่ตัดให้ และถึงแม้ว่าจะไม่มีคิวก็ไม่สามารถ Walk-in เข้ามาตัดผมได้ เพราะลุงชัยต้องได้พักก่อนตัดผมให้คนต่อไป เพื่อการตักผมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
สร้างความประทับใจจนอยากบอกต่อ
ลูกค้าเก่าที่มาตัดผมกับลุงชัยก็จะรู้สึกไว้วางใจกับการตัดผมของลุงชัยอยู่แล้ว และลุงชัยก็จำลูกค้าได้ทุกคน ใครชอบแบบไหนลุงชัยรู้หมด ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ ลุงชัยจะถามว่ารู้จักร้านจากไหน ใครเป็นคนแนะนำมา เพราะจะได้รู้สไตล์ที่ลูกค้าชอบ และยังถามอีกว่าทำอาชีพอะไร เพราะจะได้ออกแบบทรงผมให้เหมาะกับอาชีพนั้น ๆ ทำให้ไม่ว่าใครที่ได้เข้าร้านลุงชัยก็จะรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน
หลายคนมักจะคิดว่าทุกคนคือลูกค้า แต่ถ้าเราลองโฟกัสว่าลูกค้ากลุ่มไหนที่เราคุ้นเคยมากที่สุด เหมือนกับลุงชัยที่เริ่มจากการโฟกัสลูกค้าเก่าที่คุ้นเคยมากพอจนเห็นถึงปัญหา เข้าใจลูกค้า และสามารถแก้ไขปัญหาให้กับเค้าได้ ก็จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจจนอยากบอกต่อได้ ยิ่งเป็นลูกค้าที่เราถนัดแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด ก็จะทำให้อะไร ๆ ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ที่สำคัญยังช่วยให้เราประหยัดอีกด้วย
จะเห็นได้ว่ายังไม่ต้องไปคิดถึงทำเลใหญ่โต ยังไม่ต้องคิดถึงโปรเจกต์ที่ยิ่งใหญ่ ลองเริ่มจากการฟังเสียงลูกค้า แล้วดูว่าเราจะไปช่วยแก้ปัญหาที่จะทำให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้นยังไงได้บ้าง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งบมากมายในการทำโฆษณา เพราะลูกค้าจะเป็นคนบอกต่อให้เราเอง ปัจจุบัน Instagram ของลุงชัยมีผู้ติดตามมากกว่า 6,000 คน มีลูกค้าเข้ามาเรื่อย ๆ และไม่เคยเสียเงินค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว และสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากลุงชัยนั้น ก็คือพลังแห่งการบอกต่อจากลูกค้าที่รักเรา ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน
และนี่คือไอเดียที่ไม่ต้องใช้เงินในการทำโฆษณามหาศาล เพียงแค่รับฟังลูกค้า คุณก็เริ่มทำธุรกิจได้